วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ดวงปีวอกที่กำลังจะมาถึง


         ปีใหม่เริ่มจะเข้ามา สำหรับระบบโหราศาสตร์แบบจันทรคติโบราณ หลังจากวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำเดือนอ้าย นักษัตร วอก  
ดาวอาทิตย์เป็นเพชฌฆาตฤกษ์  ทั้งปีและเดือน อยู่ในภูมิธาตุไฟ เหตุการณ์ สถานการณ์อาจจะเกิดความเดือดร้อน ไฟ คดีความ อาวุธ อุบัติเหตุ ถึงแม้ไม่ใช่ดาววาสนาก็ตาม แต่เพชฌฆาตฤกษ์ก็ยังส่งผลที่ร้ายเช่นกัน ภาวะโลก สังคมอาจเกิดความเดือดร้อน เหตุการณ์ร้ายๆอาจจะเกิดขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งภัยทางการเมือง ภัยจากภาวะการก่อการร้าย ภัยสงคราม หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นเพราะผลประโยชน์ รายได้ที่ไม่ลงตัว คนอาจจะหันหน้าไปในทางที่ไม่ดี เพราะดาวศุกร์เป็นกาลกิณี เป็นทั้งทุคตะ อาหารหรือที่เกี่ยวกับโภชนาการอาจจะขาดแคลน 
ดาวอาทิตย์สัมพันธ์ถึงดาวอังคาร ถ้าไม่รู้จักใช้ศีลธรรม อาศัยอารมณ์ตัดสินเหตุการณ์ ไม่ยอมลดราวาศอก ความแตกหักย่อมเกิดขึ้นแก่สังคมได้
           ดาววาสนาตกมรณะ ย้ำเรือน การเข้าข้างกัน การช่วยเหลือกัน ทำให้สังคมเดือดร้อน ภาวะมรณะภัยจะเกิดขึ้น หากใช้อารมณ์แก้ปัญหา ย่อมเดือดร้อน จะมีคนล้มตายมากขึ้น ศาสตร์ดำจะเรืองอำนาจ คนไม่ดีอาจจะเรืองอำนาจเช่นกัน ไสยศาสตร์มนต์ดำ จะกลับมีกำลัง 
            คนในวงการบันเทิงจะตกเป็นข่าวเสียหาย นักศึกษาประพฤตินอกทาง ข่าวคราวในวงการนักร้อง นักแสดง ศิลปิน อาจจะเกิดเรื่องราวไม่ดีบ่อยๆ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก หรือล้มเหลวทางด้านการเงิน 
           การเงินการธนาคารก็มีโอกาสสั่นคลอน ภาวะเศรษฐกิจอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางร้าย
            ภาวะสงคราม ความไม่สงบของโลกอาจจะเกิดขึ้น รุนแรงขึ้น เก็บทองคำอาจจะเป็นทางออกที่ดี อนาคตทองคำอาจจะมีความจำเป็นและมีค่าสูงขึ้น ใช้จ่ายอย่างประหยัด เก็บออมทรัพย์สิน และของมีค่า ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองและสถานการณ์โลกบ้าง จะได้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อักษรกับกำลังในวิชาทักษยุค


พยัญชนะ
              พยัญชนะในวิชาทักษามหายุคอ้างอิงกับพระพุทธศาสนา ดังนั้นวิธีคิดกำลังของพยัญชนะจึงมีอักษรและสระ ๔๑ แบ่งออกเป็น 
พยัญชนะ ๓๓ ตัว สระ ๘ ตัว
            พยัญชนะวรรคจัดเป็น ๕ วรรคๆ ละ ๕ ตัว จึงมี ๒๕ ตัว คือพยัญชนะวรรคจัดเป็น ๕ วรรคๆ ละ ๕ ตัว จึงมี ๒๕ ตัว คือ
ก       ข       ค       ฆ       ง       เรียกว่า  ก  วรรค 
จ       ฉ       ช       ฌ             เรียกว่า  จ  วรรค
ฏ              ฑ      ฒ       ณ      เรียกว่า  ฏ  วรรค
ต       ถ       ท       ธ       น       เรียกว่า  ต  วรรค 
ป       ผ       พ       ภ       ม       เรียกว่า  ป  วรรค
          พยัญชนะอวรรค ๘ ตัว คือ ย ร ล ว ส ห ฬ อํ เรียกว่า พยัญชนะอวรรค 
          สระ ๘ ตัว อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ 

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อักษรกับพยัญชนะวรรค


           


อักษรพยัญชนะวรรค

           ในศาสตร์ไทยแต่โบราณมีการตั้งชื่อ หรือ ฉายา โดยใช้อักษรที่เป็นพยัญชนะวรรค ที่มีพื้นฐานลึกๆมาจากบาฬีศัพย์ เช่น ก วรรค จ วรรค เป็นต้น ซึ่งมีฐานกร ตามวรรคนั้น เป็นการจัดวรรคให้เหมาะสมในการออกเสียง โหราจารย์ในสมัยก่อน ท่านได้นำหลักพยัญชนะวรรคนั้นมาใส่ไว้ควบคู่กับระบบทักษา เพื่อเป็นจุดในการจะตั้งฉายา หรือตั้งชื่อ ให้เหมาะสมกับดวงชะตาหรือวันเกิด หลีกเลี่ยงกาลกิณี หรืออักษรในวรรคโทษ ดังนั้นครูโหราจารย์ท่านจึงวางพยัญชนะวรรคเอาไว้ตามแผนผัง อักษรทั้งหมดก็มีกำลังตามภูมิที่ตนอยู่ในภูมินั้นๆ เช่น ก = ๒ เป็นต้น แต่พอมาในครั้งหลังๆมา ก็มีการทำให้พิสดารไปอีกว่า จันทร์กำลัง ๑๕ ก็มี แต่ในที่นี้เราใช้แบบฉบับย่อ 
        ตัวอย่างชื่อ สมบัติ   ส = ๖   ม = ๕   บ = ๕     ั  ไม่นับ  ต = ๗  สระ   ิ = ๑  รวมกันทั้งหมด ได้กำลัง ๒๔ 
          จุดสังเกต ในภาษาบาฬี จะไม่มีพวกวรรณยุค เช่น พวกไม้เอก ไม้โท ต่างๆ ดังนั้นจึงไม่ถูกจัดเข้ามาในการตั้งชื่อ ฉายา ในทักษาแผนภูมิเหล่านี้ 

          ถ้าเป็นในวิชาทักษามหายุค เราก็จะเอากำลังทั้งหมดหาร ๘ แล้วได้เศษเท่าไร ก็ไปดูในภูมิกำเนิดดวงชะตาว่าตกอะไร ดี ร้าย บอกตามภูมิแผนทักษา

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ดาวราหู

ดาวราหู ๘
             ธาตุลม แสดงถึง ความรวดเร็ว ฉับพลัน ทันที ถ้าไม่รู้จักควบคุมหรือตั้งมั่นในทางธรรมแล้วมักตกอยู่ภายใต้กิเลสโมหะจริต มักลุ่มหลงมัวเมา ขาดสติ หลงผิด งมงาย ยิ่งคิดยิ่งหลง อารมณ์แปรปรวน ไม่แน่นอน เจ้าเล่ห์เพทุบาย ชอบเอารัดเอาเปรียบ ชอบฉวยโอกาสติดอยู่ในกามคุณอารมณ์ในทางใฝ่ต่ำ บุคลิก พฤติกรรม การกระทำจะเป็นไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกธรรมนองครองธรรม มีอิทธิพลส่งผลในทางนักเลง
              
        นิสัยใจคอ  ส่วนใหญ่ให้ผลในทางที่ไม่สู้จะดี มักเป็นคนเจ้าอารมณ์ ทำอะไรตามใจตนเอง จิตใจไม่แน่นอน ทำอะไรไม่ค่อยสุภาพไม่เรียบร้อย เห็นผิดเป็นชอบ หูเบาเชื่อคนง่าย ขาดความคิดยับยั้ง หุนหัน ทำอะไรไม่ค่อยไตร่ตรอง คิดแล้วมักลงมือทำเลย ใจใหญ่ ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง กล้าทดลอง ไม่กลัวใคร ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ เป็นคนที่คบยาก เหลี่ยมจัดไม่น่าไว้ใจ มัวเมา หลงผิด นักเลงสุรา นักรัก นักเลงทุกชนิด ชอบในทางอบายมุข ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ  เอาแต่ใจตนเองเป็นหลัก ชอบให้คนยกย่อง ยกยอ สรรเสริญ มุทะลุ บ้าบิ่น โวยวาย ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ โมหะจริตรุนแรง คราวรักถึงขนาดรักจนตาบอด ถ้าเกลียดใครเกลียดจนเข้ากระดูก ชอบทำอะไรผิดศีลผิดธรรม
    ** บุคคลใดไม่อยู่ในธรรมนองครองธรรมมักเป็นไปในทางที่เสื่อมเสียดังกล่าว แต่ถ้าเป็นคนดีมีศีลธรรมบุคคลนั้นจะเป็นผู้ที่ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจมืด มีความห้าวหาญ เสียสละชอบช่วยเหลือคน เอาตัวรอดเก่ง ไหวพริบปฏิภาณดี (ฉลาดแกมโกง) **


          บุคลิกภาพ  มีความตื่นตัว กระฉับกระเฉง ว่องไว รวดเร็ว กระโดกกระเดก ไม่เรียบร้อย อยู่ไม่นิ่งเฉย กิริยา อิริยาบถ คำพูด การเจรจาออกในทางนักเลง พูดจาเด็ดขาด ท้าทาย พูดจาใหญ่โต โอ้อวด กล้าได้กล้าเสีย    
          ด้านดี มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เป็นผู้ที่มีจิตตานุภาพสูงและเข้มแข็ง มีความเฉลียวฉลาด มีสามารถในการชักชวนให้ผู้อื่นเชื่อและศรัทธา แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่งและแนบเนียน คิดเร็วทำเร็ว กล้าได้กล้าเสีย รักการผจญภัย รักความยุติธรรมไม่กลัวอำนาจมืด

              ด้านเสีย ลุ่มหลงมัวเมา งมงาย หลงใหลง่าย ประมาท เจ้าเล่ห์ โกหก กระล่อน
ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ไม่ซื่อสัตย์ ไว้ใจมิได้ ฉ้อโกง บุ่มบ่าม วู่วาม ขาดความยั้งคิด ชอบเอารัดเอาเปรียบ โมหะจริต ไร้คุณธรรม 


(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

ดาวเสาร์

ดาวเสาร์ ๗
     ดาวเสาร์เป็นดาวที่เคลื่อนที่ช้า ดังนั้นผู้ที่มีความสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ผู้นั้นจะเป็นคนที่มีความคล่องตัวน้อย เป็นไฟสุมขอน ไฟที่ครุกรุ่น สามารถหลอมเหลวสิ่งต่างๆได้ เป็นดาวที่ให้ผลช้าแต่หนักแน่นและรุนแรง ถ้าเป็นสิ่งของก็เป็นของเก่า โบราณ  ถ้าเป็นระยะทางก็เป็นระยะทางไกลๆ ถ้าเป็นเวลาก็เป็นเวลาที่เนิ่นช้า ยาวนาน ดาวเสาร์เป็นดาวที่น่ากลัว เพราะเป็นดาวแห่งโทษทุกข์ คุก ตะราง ตกต่ำ ไม่ดี แต่ในส่วนที่ดีของดาวเสาร์คือ มีความอดทน อดกลั้น เก็บซ่อนอารมณ์เก่ง มีความพากเพียรพยายาม

          รูปร่างลักษณะ  ผิวเนื้อดำแดง ค่อนข้างดำ หรือ ดำ ใบหน้าเคร่งขรึม จมูกใหญ่ ปากหนา หูใหญ่ ตาเล็ก สูงใหญ่ ผมหยิกหยักศก ใบหน้ามองดูแล้วกระดูกมากกว่าเนื้อ ฟันดูไม่สมส่วน มีขนตามลำตัวดก หลังโก่ง เวลาเดินขาพันกัน

           นิสัยใจคอ  เป็นคนเจ้าทุกข์ แบกโลกแบกทุกข์ คิดมาก วิตกกังวล คิดมาก (ปล่อยวางไม่เป็น) จู้จี้ ขี้บ่น มักเป็นคนขี้ระแวงไม่เข้าเรื่อง ไม่ไว้ใจใครง่าย เป็นเสือยิ้มยาก ต้องรับภาระต่างๆ เฉื่อยชา อืดอาด เห็นแก่ตัว ตระหนี่ ไม่ชอบสังคม มักมีความหึงหวงรุนแรง บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ 

             ด้านดี  เก็บอารมณ์ ซ่อนความรู้สึก อ่านไม่ออกว่ามาดีหรือมาร้าย ดูสุขุม เยือกเย็น เป็นผู้ใหญ่ มีความพากเพียรพยายามสูง อดทน อดกลั้น (แต่รอคอยโอกาสเอาคืน) ละเอียดถี่ถ้วน ระแวดระภัย รักสงบ สันโดษ พอใจตามอัตภาพของชีวิต 
           ด้านเสีย   โทษทุกข์ เศร้าโศก คิดมากจนเป็นโรคประสาท ฟุ้งซ่าน ขี้ระแวง ขาดความไว้วางผู้อื่นขลาด กลัวเงียบขรึมจนน่ากลัว ล่าช้า เฉื่อยชาจนดูเหมือนไม่มีชีวิตชีวา เป็นคนเจ้าทุกข์ อมทุกข์ ไม่ลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต คิดทบทวนวนไปวนมา ไม่ชอบสังคม เก็บตัว จู้จี้ขี้บ่นจนน่ารำคาญ  ถ้ามีอารมณ์โกรธจะรุนแรง หนักแน่นห้ามปรามไม่อยู่ ไม่เลิกรา พยาบาท   

http://taksamahayuks.blogspot.com/

(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

ดาวศุกร์

ดาวศุกร์ ๖
        ดาวศุกร์เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก เป็นธาตุน้ำ เป็นดาวที่ให้ความสุข ความบันเทิง ความรัก กามารมณ์ เป็นดาวแห่งความสวยงาม อ่อนหวาน น่ารัก ร่าเริง แจ่มใส เจ้าชู้ทั้งออกหน้าออกตาและกรุ้มกริ่ม เป็นดาวเจ้าเสน่ห์ มีจริต ทำให้ผู้คนหลงใหลได้ง่าย เป็นดาวโลกียวิสัย มักอยู่ในโลกแห่งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสที่น่าหลงใหล     

         รูปร่างลักษณะ  สันทัด ผิวสีเนื้อ ตางาม ใบหน้ารูปไข่ ขาวท้วม มีเสน่ห์ดึงดูด น่ารัก   

         นิสัยใจคอ  รักสวยรักงาม รักสนุก ชอบความบันเทิง ชอบแต่งตัว ชอบสังคมชอบความหรูหรา ชอบศิลปะเป็นคนเจ้าชู้  พูดโน้มน้าวจิตใจคนได้ดี พูดจาอ่อนหวาน(มักโอ้อวดอยู่บ้าง)  ประหยัดมัธยัสถ์  เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เอาทุกข์ไปให้ใครเห็น ทุกข์เก็บไว้ในใจคนเดียว เฮไหนเฮนั่นไปกับเขา แต่พอกับบ้านมานั่งร้องไห้คนเดียว คนเกิดวันศุกร์คือคนธรรพ์ ชอบดนตรี เสียงเพลง ชอบของสวยๆงามๆ รูปร่างอวบๆ ศุกร์คือกิเลส ตัณหา การเงิน ความรักเพราะฉะนั้นคนที่ดาวศุกร์เสีย ความรักก็เสีย การเงินก็เสีย

           ด้านดี  เป็นคนที่มีความสมหวังเรื่องความรัก การเงิน มีเสน่ห์แก่ผู้ที่พบเห็น รักศิลปะ ดนตรี ชอบเสียงเพลง แต่งตัวเก่ง สีสันสดใสฉูดฉาด แก่ตัวช้า ปรับสภาพเข้ากับคนได้ง่าย  
          ด้านเสีย   มักชอบอิจฉา ริษยา ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ผิวพรรณรูปร่างไม่งดงาม กิเลส โลภ โกรธ หลง อกหัก รักคุด

ดาวพฤหัสบดี


ดาวพฤหัสบดี ๕
       คนเกิดวันพฤหัสบดีให้นึกถึงพระหรือฤๅษี เป็นคนเรียบร้อย มีกฎเกณฑ์กติกามาก เป็นคนที่มีคุณธรรม มีศีลธรรม ใครทำอะไรนอกกฎเกณฑ์ไม่ได้ บางคนพูดจาเฉียบคม ปากแข็ง ใจอ่อน ดาวพฤหัสฯเสียดีที่สุด เอาตัวรอดเก่งกินตามน้ำ ทำอะไรผิดคนจับไม่ได้ 

               นิสัยใจคอ  มีเมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีอัธยาศัยไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กตัญญูกตเวที รักเหตุผล ซื่อสัตย์สุจริต  มีภูมิความรู้  มีปัญญาดี มีวิชาการดี สนใจในหลักคำสอน ชอบธรรมะ ชอบกุศล ชอบอบรม สั่งสอน มีกฎเกณฑ์กติกาสูง เจ้าระเบียบ เชื่อคนยาก ไม่ฟุ้งซ่าน รักความยุติธรรม มีความเที่ยงตรง ชอบเสียสละ รักสงบ

              บุคลิกภาพ  ดูสง่า น่าเคารพนับถือ อ่อนน้อม ถ่อมตน รู้กาลเทศะ มีความสำรวมในทุกอิริยาบถ ดูแก่เกินวัย มีความจริงใจ ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความเยือกเย็น น่าไว้ใจ ไม่ประหม่า 

            ด้านดี ปรับตัว ปรับสภาพได้ดีพอๆกับดาวพุธ เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม มีศีลธรรมประจำใจ มีความยึดมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ดีงาม รักความถูกต้อง เป็นผู้เสียสละ เป็นคนเจ้าปัญญา เฉลียวฉลาด หลักแหลม ชอบศึกษาหาความรู้ วิชาการอันเร้นลับ มีเหตุผล ไม่เชื่อในสิ่งที่งมงายต้องพิสูจน์ให้ประจักษ์ด้วยตนเอง(ผลดีคือมีคุณธรรมปัญญาดี มีเหตุผล)
           ด้านเสีย ชอบอวดรู้ในสิ่งที่ตนรู้มาไม่ว่าจะรู้จริงหรือไม่รู้จริงด้อยปัญญาอวดฉลาด ยกตนข่มท่าน เสื่อมคุณธรรมศีลธรรม ขาดความเห็นอกเห็นใจ ชอบซ้ำเติมผู้ที่ตกต่ำ ขาดเหตุผล ไม่ซื่อตรง กินตามน้ำ เอาตัวรอดเก่ง  
(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

ดาวพุธ

วันพุธ ๔
     คนเกิดวันพุธให้นึกถึงช้างไว้ก่อน ทำอะไรก็น่ารัก ทำมาค้าขายเก่ง เจรจาเก่ง พุธเป็นธาตุน้ำจึงเข้าอะไรที่ไหนได้หมด ติดต่อประสานงานเก่ง แต่ถ้าพุธเสียจะกลายเป็นกระล่อน พูดน้ำไหลไฟดับ  เหมือนนักการเมืองบางคนพูดเชื่อไม่ได้ 

         นิสัยใจคอ  มีศิลปะในการพูด พูดเก่ง ปากกล้า คารมย์คมคาย อรรถาธิบายเก่ง นักโฆษณามีความสามารถในการคิดหาเหตุผลดีมีปฏิภาณในการพูด แก้ไขเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆด้วยคำพูดและวาจาเก่ง เฉียบแหลมในอุบายต่างๆ เฉลียวฉลาดฉลาดพูดฉลาดทำ มีความทรงจำแม่นยำ รอบรู้  เข้ากับคนง่าย มีอัธยาศัยไมตรีดีงาม เป็นมิตรกับกับคนทั่วไปและคบคนได้ทุกระดับชั้น การประสานกลมกลืน
มีความสามารถทางการประนีประนอม ใจดี มีเมตตา  ชอบศึกษาเรียนรู้ มีสติปัญญาดี มีความคิดก้าวหน้ารู้จักแสวงหาผลประโยชน์กลับสู่ตนเอง ใจคอไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงง่ายคล้ายพระจันทร์ เชื่อคนง่ายเปลี่ยนความคิดง่ายและเร็ว คล้ายคนเจ้าทุกข์   
         บุคลิกภาพ  เป็นผู้อ่อนน้อม รักสงบ กิริยามารยาทดีงาม รู้จักกาลเทศะ วางตัวดี เป็นมิตรกับผู้อื่นเป็นผู้พูดคุยได้ดี ปรับตัวเก่ง มีอัธยาศัยดีงาม 

        ด้านดี  ปรับสภาพสภาวะได้ดี เข้ากับดาวอื่นๆได้ทุกดวง รักสงบและสันติสุข มีความเป็นธรรมเป็นผู้ฉลาดในหลักวิชาการทุกแขนง รักในเชิงวิชาการ ชอบทางด้านการค้าพาณิชย์  รักการค้นคว้า ช่างคิด ช่างพูด มีความรอบรู้และมีความทรงจำดีเยี่ยม ทำกิจอันใดคล่องแคล่ว ว่องไว ชอบการติดต่อประสานงาน เป็นนักประชาสัมพันธ์ โฆษก นักบรรยาย มีความสามารถในการพูดโน้มน้าวจิตใจคน
       ด้านเสีย  ปากเสีย พูดไม่เป็นมงคล พูดจาเหลวไหล ก่อศัตรูได้เพราะคำพูด ถูกหลอกเพราะเชื่อคนง่าย ศรัทธา งมงาย
http://taksamahayuks.blogspot.com/
(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

ดาวอังคาร

ดาวอังคาร ๓
     คนเกิดวันอังคารเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว มักไม่มีการวางแผนการร่วงหน้าก่อน คิดปุ๊บทำปั๊บ มักไม่ชอบเรื่องคิดๆ เรื่องใช้สมอง ชอบใช้กำลัง ชนลูกเดียวประเภทยอมหักไม่ยอมงอ ชอบให้ง้องอน ชอบคำยกยอปอปั้น พูดดีๆทำตายเลย แต่ถ้าพูดไม่ดีมึงตายไม่ใช่กูตาย ขึ้นอยู่กับคำพูด มุทะลุดุดัน ชอบเรื่องเสี่ยงๆ หรือผจญภัย อยู่กับฤๅษีเป็นฤๅษีอยู่โจรเป็นโจรขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม

        รูปร่างลักษณะ  สันทัด แข็งแรง มะขามข้อเดียว ล่ำสันแต่ไม่สูงนัก บางทีเตี้ยแต่ไม่อ้วน ผิวคล้ำผมหยิกหยักศก ใบหน้ารูปไข่บางทีกลม คางเสี้ยม กล้ามใหญ่ กระดูกใหญ่ ท่าทางองอาจ

         นิสัยใจคอ  ใจคอนักเลง กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย ชอบการผจญภัย ชอบเที่ยวเตร่ ตัดสินใจทำอะไรง่ายและเร็วไม่ไตร่ตรองนาน มุทะลุตึงตัง โทสะร้าย ทำอะไรพรวดพราดตึงตังโผงผาง ชอบความรุนแรง ขยันขันแข็ง ชอบทางนักเลงทุกอย่าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ปากร้ายใจดี รักสนุก


       บุคลิกภาพ  ท่าทางกระฉับกระเฉง กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ใจร้อน ใจเร็ว โกรธง่ายหายไว จำพวกโทสจริต ชอบทำอะไรเอาแต่ใจ ชอบอาสา ขยัน บึกบึน มีกำลังกายดี ชอบงานท้าทาย งานเสี่ยงภัย เป็นคนตรงไปตรงมา    
    
         ด้านดี เข้มแข็ง บึกบึน ขยันขันแข็ง  มีความเพียรและอดทนดี ไม่ย่อท้อ เป็นคนไม่ยอมคน รักการต่อสู้ กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ชอบการผจญภัย ไม่กลัวอันตราย เชื่อมั่น รวดเร็วว่องไว กล้าแสดงออก มีกำลังกายดี ทำมากกว่าพูด ทำอะไรจริงจัง

         ด้านเสีย  ขาดความยับยั้ง ขาดความยั้งคิดเมื่อได้แสดงออก ย่อมแสดงออกมาจนหมดสิ้นทุกอย่างขาดไหวพริบ ใจร้อน ใจเร็ว โทสะอารมณ์รุนแรง โมโหร้าย ไม่ฟังใคร ไม่มีเหตุผล ชอบหาเรื่อง วิวาทถูกโทสะครอบงำได้ง่าย ใจคอนักเลง ชอบลองของ

(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

ดาวจันทร์

ดาวจันทร์ ๒
             คนเกิดวันจันทร์ ให้นึกถึงนางฟ้าคือผู้หญิง น้ำไหลไปไหลมา อรชรอ้อนแอ้นเอวบางร่างน้อย แก้มใหญ่เป็นพวง ตาแขก เข้ากับคนง่ายเข้าผู้ใหญ่เก่ง น้ำตาร่วงง่าย ขี้น้อยใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส
             นิสัยใจคอ  รักสวยรักงาม  สุภาพอ่อนโยน ดูเรียบร้อยน่ารัก มีเสน่ห์ 
มีจริตมารยา มีเมตตาธรรม ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใจน้อยแสนงอน อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายไปตามสภาวะแวดล้อม โลเล รักง่ายหน่ายเร็ว ขาดความเชื่อมั่น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชอบสมาคม ชอบประดิษฐ์ ชอบสอนผู้อื่น

      บุคลิกภาพ  เรียบร้อย น่ารัก สะอาด มีอนามัยดี มีคุณสมบัติเป็นสตรี อ่อนโยน ยิ้มหวาน มีเสน่ห์ เจ้าระเบียบ จู้จี้  

           ด้านดี  มีความอ่อนโยน นุ่มนวล อ่อนหวาน จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ชอบขัดอกขัดใจใคร ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ชอบบริการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกสบายต่างๆ มีความกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก เอาใจใส่ในสุขทุกข์ของผู้อื่น มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประณีต เข้ากับสิ่งแวดล้อมและผู้อื่นได้ง่าย ใจดีมีเมตตาสูง
       ด้านเสีย  อ่อนไหว อ่อนแอ หูเบาเชื่อคนง่าย  ตกอยู่ในอิทธิพลของคนอื่นได้ง่าย ตื่นตกใจง่าย ขลาดกลัวคล้ายกับเป็นโรคประสาทอ่อนๆ (กระต่ายตื่นตูม) ใจน้อยแสนงอน อารมณ์เร็ว ชอบเพ้อฝัน ชอบสร้างวิมานในอากาศ ได้แต่คิดไม่ลงมือทำ จิตใจขาดความมั่นคงโลเล เอาใจยาก คิดอย่างทำอย่าง คิดเกินขอบเขต ทำคุณคนไม่ขึ้น จุกจิกจู้จี้ เจ้าระเบียบเกินกว่าเหตุ ใจอ่อน จึงถูกผู้อื่นชักจูงไปในทางที่เสียหายได้ง่าย
http://taksamahayuks.blogspot.com

(ขอบคุณภาพจากพระดังดอทคอม)

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ดาวอาทิตย์

       
               หลังจากที่เราเริ่มต้นศึกษาจากบริวาร ซึ่งแปลว่าผู้ใหญ่ หรือคนรอบข้าง สิ่งใกล้ตัวต่างๆแล้ว ในความหมายอีกนัยหนึ่ง บริวารนั้นมาจากปีเกิด ยังจะมีความหมายออกไปถึงอุปนิสัยเองของเจ้าชะตาด้วยเช่นกัน วันนี้จะเอาความหมายของดาวมาแสดง เพื่อให้ทราบถึงอุปนิสัย ข้อดี ข้อเด่นหรือข้อด้อยต่อไป อุปนิสัยของดาว ก็สามารถสื่อถึงความเป็นตัวตน ของเจ้าชะตาด้วยเช่นกัน


      คนเกิดวันอาทิตย์ ให้นึกถึงราชสีห์ๆเป็นสัตว์ที่มีนิสัยรักยศ รักศักดิ์ศรี ต้องดูดี สง่าผ่าเผย มีมานะและถือตัว หยิ่งทระนง ใจร้อน เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง รักอิสระ รักพวกพ้อง โอบอ้อมอารี ฆ่าได้หยามไม่ได้ ไม่ยอมให้ใครเห็นความบกพร่องของตัวเอง หมดเปลืองเท่าไรไม่ว่าแต่เอาศักดิ์ศรีไว้ก่อน สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความเป็นผู้นำหรือเป็นหัวหน้า  ถ้ารับราชการก็จะมียศตำแหน่ง
      รูปร่างลักษณะ  สันทัด แข็งแรง ใบหน้ารูปไข่หรือมนๆ ผิวเนื้อดำแดงค่อนข้างคล้ำ ผิวสองสี หรือขาวแดง
         นิสัยใจคอ  ใจร้อน ซื่อตรง ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย รักเกียรติรักศักดิ์ศรี ใฝ่สูงทะเยอทะยาน ไว้ตัววางตัวสูง ถือทิฐิมานะสูง ไม่ชอบง้อใคร ค่อนข้างที่จะเลือกสมาคม ค่อนข้างเป็นคนเหยียดสังคม มีความเป็นผู้นำสูง รักอิสรภาพ ฉลาดในวิชาการ สติปัญญาดี ชอบศึกษาค้นคว้า ใจดีมีเมตตา รักครอบครัวดีแต่เจ้าชู้ ว่องไวปราดเปรียว ชอบสมาคม พูดเก่ง มีศิลปะในการพูด และการโฆษณาดี แต่ชอบพูดตรงๆ เวลาพูดมีท่าทางประกอบ

       บุคลิกภาพ สง่าผ่าเผย ภูมิฐาน น่าเคารพนับถือ น่ายำเกรง มีอำนาจ ลักษณะองอาจ ไม่ชอบง้อใคร ว่องไว ทะมัดทะแมง ไม่อืดอาด   

            ด้านดี  มีเกียรติ มีชื่อเสียง มีอำนาจ มีวาสนา มีบารมี รักเกียรติ รักศักดิศรี รักชื่อเสียง มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ตรงไปตรงมา รักอิสระ เจ้าระเบียบ มีความรับผิดชอบสูง เป็นผู้นำที่ดี เด่นทางราชการ แข็งแกร่ง เป็นผู้ที่มีความเสียสละส่วนตนทำเพื่อผู้อื่น มักตื่นตัวอยู่เสมอ ทำอะไรเปิดเผย รักความก้าวหน้ามีความทะเยอทะยาน  มีลักษณะของความงามเวลาลุก เวลานั่ง

       ด้านเสีย เป็นคนเจ้าอารมณ์ เจ้าโทสะ โมโหร้าย หยิ่งจองหอง ถือตัว ถือดี ใจร้อนไม่ฟังใคร รักสบายจนขี้เกียจ อับวาสนา หลงตัวเอง ก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ใฝ่สูง หัวสูง เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสโอหัง ชอบดูถูกดูหมิ่นคนอื่น ยศตำแหน่งไม่ก้าวหน้า ไม่ชอบให้ใครมาบังคับบัญชา  ไม่มีหน้าตาในวงสังคม ไม่มีคนยำเกรงนับถือให้เกียรติ ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ง้อใครไม่เป็น

(ขอขอบคุณภาพเพื่อการศึกษาจากพระดังดอทคอม)

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วิชาทักษามหายุคศาสตร์คืออะไร



วิชาทักษามหายุคศาสตร์คืออะไร
       วิชาทักษามหายุคเป็นวิชาโหราศาสตร์โบราณวิชาหนึ่ง นับวันขึ้น ๑ ค่ำเดือนอ้ายเป็นจุดเปลี่ยนปีนักษัตร และถือปีนักษัตรโดยความเป็นใหญ่ มีอิทธิพลในการให้ผลยาวนานถึงหนึ่งปี หรือตามแต่ภูมิที่เป็นการเสวยอายุอยู่ในยุคที่เรียกว่า “ยุคใหญ่” ตามกำลังของภูมินั้นๆ นอกจากนั้นวิชาทักษามหายุคยังมีจุดรวมของชะตาชีวิต ที่เรียกว่าดาว “วาสนา” ซึ่งเป็นจุดสรุปผลของดวงชะตานั้นๆ เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของวิชานี้ 

จุลยุค ใช้ทายชะตามนุษย์ บุคคล เหตุการณ์
มหายุค ใช้ทายชะตาดวงเมือง ประเทศ โลก 


       วิชาทักษามหายุคเป็นวิชาที่มีความละเอียดอ่อน มีพระคาถาในพื้นดวง ๔๘ พระคาถา ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงอุปนิสัย ความเป็นไปแห่งชีวิต มีทั้งฤกษ์และบารมีอยู่ครบตามดวง นั้นนั้นจึงมีจุดที่จะแก้ไขดวงชะตาตนเองพร้อมสรรพ เป็นจุดที่จะเสริมหรือแก้ไขดวงให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จได้ ลบจุดอ่อน - สร้างจุดแข็ง หลีกสิ่งร้าย ละโทษเพิ่มพูนคุณความดีแก่ดวง ทำชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้น่าอยู่หรือยั่งยืน ร่ำรวย ทิศใดดี ทิศใดร้ายให้โทษ
       ทุกอย่างมีเหตุ มีผล มีต้นเหตุ มีตัวขยายผล มีเหตุผลไม่งมงาย ถูกต้องตามหลักการดำเนินชีวิตตามหลักธรรม แผนภูมิบารมี เป็นจุดหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้เส้นทางชีวิตเกิดความราบรื่นหรือแก้ไขปัญหาปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดได้ โดยหลักแห่งทศธรรม มีทาน ศีล เป็นต้น

แผนภูมิบริวาร

            


         วิชาทักษายุคมีพระคาถา ๔๘ พระคาถา แบ่งออกเป็นภูมิๆละ ๖ พระคาถา
โดยเริ่มต้นจากปีเกิด  เดือนเกิด วันเกิดเป็นต้น จนถึงฤกษ์เป็นที่สุด วิชาทักษามหายุคนี้ใช้เกณฑ์ในการเปลี่ยนปีนักษัตรแบบโบราณ วันขึ้น ๑ ค่ำเดือนอ้ายเป็นจุดเปลี่ยนปีนักษัตร

          แผนภูมิที่ ๑ เป็นจุดเริ่มต้นของการผูกดวง ซึ่งมาจากปีนักษัตรที่จะใช้พยากรณ์  มีทั้งหมด ๑๒ ปีนักษัตรแต่ในทักษานั้นมีเพียง ๘ ภูมิเท่านั้น ดังนั้นจึงเกิดเป็นภูมิแฝดขึ้นมา ๔ ภูมิ ตั้งแต่ภูมิอาทิตย์ถึงภูมิพุธ ดังนัี้
ปีชวด/ปีวอก อยู่ภูมิอาทิตย์ (๑)              ปีฉลู/ปีระกา อยู่ภูมิจันทร์ (๒)
ปีขาล/ปีจอ  อยู่ภูมิอังคาร (๓)               ปีเถาะ/ปีกุน อยู่ภูมิพุธ (๔)
ปีมะโรง อยู่ภูมิพฤหัส  (๕)                  ปีมะเส็ง อยู่ภูมิศุกร์ (๖)
ปีมะเมีย อยู่ภูมิเสาร์ (๗)                  ปีมะแม อยู่ภูมิราหู (๘)

          พระคาถาตัวที่ ๑ ในแผนภูมิที่ ๑ คือบริวาร หมายถึง สิ่งแวดล้อมทั้งมีชีวิตและ
ไม่มีชีวิตรอบๆตัวเราตั้งแต่เกิดจนตาย                
         ตอนเด็กคือพ่อ,แม่ สิ่งของเครื่องใช้ไม้สอยก็นับว่าเป็นบริวารของเรา
        โตขึ้นมา วัยเรียน ครูอาจารย์ เพื่อน เครื่องใช้ในการเรียน เหล่านี้ก็คือ บริวาร
         วัยทำงาน เจ้านาย ลูกน้อง อุปกรณ์สำนักงาน รถ ยวดยาน เหล่านี้ก็คือ บริวาร
         เมื่อเราแต่งงาน ภรรยา สามี บุตร เหล่านี้ก็คือ บริวาร
         เมื่อถึงวัยเกษียร ท่านก็จะมีงานอดิเรก บางท่านก็ชอบเลี้ยงนก เลี้ยงปลา 
ปลูกต้นไม้ มีเงินหน่อยก็สะสมเครื่องลายคราม พระ, แสตมป์ และของสะสมต่างๆ เหล่านี้ก็คือ บริวาร     ***  สรุป บริวารก็จะเปลี่ยนไปตามวัยของเจ้าชะตา  ***

         อีกนัยหนึ่ง ตามบทกลอนที่อาจารย์ ส. สัจจะญาณ กล่าวไว้ ปีเกิดนี้ ใช้ทายเชื้อสายสกุลวงศ์ ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ต้นตระกูล ดังคำกลอนว่า " ปีเกิดทายหมาย เชื้อสาย สกุลวงศ์ "

จุดเริ่มต้นของวิชาทักษามหายุค

               
                 วิชาทักษายุคเริ่มต้นที่ช่องตาราง ๘ ช่องนี้ โดยกำหนดว่า 
    อาทิตย์ แทนค่าด้วยเลข ๑
    จันทร์ แทนค่าด้วยเลข ๒
    อังคาร แทนค่าด้วยเลข ๓
    พุธ แทนค่าด้วยเลข  ๔
    พฤหัส แทนค่าด้วยเลข ๕
    ศุกร์ แทนค่าด้วยเลข ๖
    เสาร์ แทนค่าด้วยเลข ๗
    ราหู แทนค่าด้วยเลข ๘
                  ช่องแรกเริ่มต้นที่เลข ๑ ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิอาทิตย์ 
                  ช่องหมายเลข ๒  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิจันทร์
                  ช่องหมายเลข ๓  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิอังคาร
                  ช่องหมายเลข ๔  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิพุธ
                  ช่องหมายเลข ๕ ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิพฤหัส
                  ช่องหมายเลข ๖  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิศุกร์
                  ช่องหมายเลข ๗  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิเสาร์
                  ช่องหมายเลข ๘  ครูท่านเรียกว่าเป็นภูมิราหู


และแบ่งภูมิทั้งหลายเป็นธาตุดังภาพต่อไปนี้.......


ทักษาที่ปรากฎนี้เรียกว่า ทักษาคู่ธาตุ 
          อาทิตย์กับเสาร์คู่ธาตุไฟ      จันทร์กับพฤหัสเป็นคู่ธาตุดิน    อังคารกับราหูเป็นคู่ธาตุลม ส่วนพุธกับศุกร์เป็นคู่ธาตุน้ำ 

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วิชาทักษามหายุคศาสตร์คืออะไร



      วิชาทักษามหายุคศาสตร์คือวิชาโหราศาสตร์ระบบจันทรคติแบบโบราณ มีพระคาถา ๔๘ พระคาถา มี ๘ ธาตุ ๘ ทิศ อีกทั้งยังมีทุคตะดวงชาติและทุคตะดวงภพ อันจะเป็นจุดขยายผลเรื่องราวไม่ที่มีขีดจำกัด ความสามารถตอบโจทย์ได้สูง หากมีความเพียร และความพยายาม ในการศึกษาพื้นฐานเบื้องต้น แห่งความหมายของพระคาถาอันเป็นศัพย์ที่เราสามารถเข้าใจได้โดยไม่ยุ่งยากนัก แต่เมื่อรู้ความหมายแล้ว จะมีความสนุกสนานในการวิเคราะห์ชะตา เพราะเนื้อเรื่องต่างๆเป็นไปตามเรือนชะตา และขยายผลโดยดวงชาติและดวงภพ
       ในศาสตร์ทักษามหายุคนี้สามารถกำหนดชัยภูมิของที่อยู่อาศัยได้ ทิศใดที่อยู่แล้วให้คุณหรือโทษ การวางฤกษ์ยาม ในการทำมงคลต่างๆหรือกิจการ 
       ในการผูกดวงถึงแม้พระคาถาจะมีมาก ดูแล้วน่าหวาดกลัว ปวดหัว ในการตั้งดวง แต่วิชาทักษามหายุคนี้ก็มีจุดที่เป็นคู่สมบัติ เข้ามาช่วยความจำ อีกทั้งในสมัยที่อาจารย์ส.สัจจญาณท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมี "ไม้วิเศษ"เพื่อประโยชน์ในการพยากรณ์ดวงที่ย่นย่อลง หากเอาพระคาถาต่างๆมาใส่ภาชนะอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเป็นไม้ ลูกเต๋า หรือทำเป็นแบบไพ่พยากรณ์ ก็สามารถนำพระคาถามาใช้พยากรณ์นิมิตกรรมของบุคคลได้อย่างแม่นยำได้อีกอย่างหนึ่งด้วย
  
        ดังนั้นทุกศาสตร์จะเน้นไปที่ความหมายเรือนชะตาและความหมายดาว ทักษามหายุคก็เช่นกัน ถ้ามีความแตกฉานในเรือนชะตา และ แตกฉานในความหมายดาวแล้ว การพยากรณ์ก็จะรื่นไหลไปอย่างดี มีความน่าฟัง ไม่ต้องนั่งเดาสถานการณ์ การจะเป็นบัณฑิตย์ได้ ก็อาศัยธรรม ๔ ประการ คือ สุตตะ จินตะ ปุจฉา ลิขิต 

      สุตตะ คือฟัง เรียน ท่อง สาทยาย ให้มาก
      จินตะ คือ คิด เมื่อเรียน ท่องแล้ว ต้องใคร่ครวญว่าถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ด้วยเหตุ ผล มีหลักของวิชาการเป็นเครื่องรับรอง หากอาศัยความเชื่อ ความศรัทธาอย่างเดียวแล้ว ก็จะกลายเป็นความงมงาย 
     ปุจฉา คือ เมื่อไม่เข้าใจก็ไตร่สวน สอบถามกับท่านผู้รู้ หรือคบหาบัณฑิตย์ เพื่อจะเป็นที่ปรึกษาแก่เราได้
     ลิขิต คือ เมื่อจำไม่หมด ก็จดดีกว่าจำ ต้องหัดเขียน หัดทำการบ้าน ผูกดวง ทำการจดบันทึกเป็นสถิติเอาไว้ 


อันว่าวิชาโหราศาสตร์เหมือนดังว่ากับแผนที่ ธรรมะเปรียบเหมือนหางเสือหรือเข็มทิศที่จะทำให้เรือนั้นแล่นไปถึงจุดหมาย มีความชัดเจน ไม่ไปสู่ทางเสื่อมหรือความหลงไหล งมงาย 

ประวัติ อาจารย์ วิมลจันทร์ จันทรวิโรจน์



ประวัติ อาจารย์ วิมลจันทร์  จันทรวิโรจน์

       ประวัติการศึกษาโหราศาสตร์อาจารย์เป็นผู้พิการด้านสายตา แสวงหาวิชาชีพในการเลี้ยงชีพ ได้รับการแนะนำจากเพื่อนให้เรียนวิชาโหราศาสตร์ ครั้งแรกเรียนที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทยครั้นศึกษาแล้วไม่สามารถเรียนรู้หรือทำความเข้าใจตามอาจารย์และเพื่อนร่วมห้องที่สายตาดีได้ เนื่องจากมองไม่เห็นอาจารย์สอนบนกระดาน จึงมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่าต้องไปศึกษาพื้นฐานของหลักวิชามาก่อน แล้วจึงมาฟังคำบรรยายจากอาจารย์เพื่อที่จะเก็บเกร็ดความรู้ได้
       วันหนึ่งมีการไหว้ครูประจำปีของสมาคมฯ อาจารย์ได้ไปร่วมพิธีไหว้ครู และได้กับสุภาพบุรุษที่ใจดีท่านหนึ่งได้เข้ามาถามว่า"คุณมาทำอะไร"  อาจารย์ตอบว่า "มาไหว้ครูและได้ถามกลับไปว่าท่านเป็นใคร"   ท่านบอกว่าท่านชื่อ "ส. สัจจญาณ" ท่านบอกว่าท่านมีวิธีสอนคนตาพิการ อาจารย์สอบถามว่าท่านสอนอยู่ที่ไหน ท่านตอบว่าสอนอยู่ที่วัดเอี่ยมวรนุช
        หลังจากนั้นหลายอาทิตย์ต่อมา อาจารย์และเพื่อนๆที่พิการด้านสายตาจึงปรึกษากันเกี่ยวกับการเรียนในชั้นเรียนที่ไม่สามารถเรียนเข้าใจได้ จึงพากันมาพบอาจารย์ ส. สัจจญาณ ที่วัดเอี่ยมวรนุช รวมกัน ๔ คน คือ ๑.อ.วิมลจันทร์ จันทรวิโรจน์ ๒.อ.จารุพันธ์ สุวัทธิกุล  ๓. คุณบุญเกิด  อนุวัฒน์  ๔. คุณโชติ มั่งคั่ง ณ. รังสี จึงฝากตัวเป็นศิษย์นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และขอไหว้ครูตามธรรมเนียมไทย 
       (อาจารย์ ส. สัจจญาณ ได้บอกว่าการไหว้ครูครั้งแรกสำคัญที่สุดของการเรียนรู้วิชา) ท่านเรียนกันได้ประมาณ ๓ ปี อาจารย์ ส.สัจจญาณก็ถึงแก่กรรมลง
       หลังจากที่อาจารย์ ส.สัจจญาณ เสียชีวิตแล้ว อาจารย์บุญเรือน วรรณวิจิตร ให้อาจารย์มาช่วยถ่ายทอดวิชาทักษามหายุคที่สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติเป็นต้นมา